ลักษณะสำคัญของเครื่องคอมพิวเตอร์
คอมพิวเตอร์ในปัจจุบันแบ่งได้ 5 ประเภท
1. ซูเปอร์คอมพิวเตอร์(Super computer)
-มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด
-มีความเร็วในการประมวลผลสูงสุด
-ราคาแพงมาก
-มีขนาดใหญ่
-คำนวณทางคณิตศาสตร์ได้หลายแสนล้านครั้งต่อวินาที
-ใช้แก้ปัญหาทางวิทยาศาสตร์และวิศวกรรมศาสตร์ได้อย่างรวดเร็ว
2. เมนเฟรมคอมพิวเตอร์ (Mainframe computer)
-มีสมรรถนะการทำงานสูงไม่เน้นความเร็ว
-ความเร็วสูง
-ให้บริการผู้ใช้จำนวนหลายร้อยคนพร้อมกัน
-นิยมใช้ในองค์กรใหญ่ๆ
3. มินิคอมพิวเตอร์(Minicomputer)
3. มินิคอมพิวเตอร์(Minicomputer)
-ใช้งานในองค์กรขนาดกลางที่ให้บริการข้อมูลแก่เครื่องลูกข่าย เช่น โรงแรม
4. ไมโครคอมพิวเตอร์(Microcomputer)
4. ไมโครคอมพิวเตอร์(Microcomputer)
-ได้รับความนิยมมากที่สุด
-มีประสิทธิภาพสูง ราคาไม่แพง
-เหมาะใช้ส่วนตัวที่บ้าน โรงเรียน
5. คอมพิวเตอร์ขนาดเล็ก(Handheld computer)
-เก็บข้อมูลประจำวันได้
-สร้างปฏิทิน เล่นเกม ฟังเพลง ฯลฯ
อุปกรณ์ต่อพ่วง
อุปกรณ์ต่อพ่วง หมายถึง อุปกรณ์ต่างๆที่มามารถต่อเข้ากับอุปกรณ์ของหน่วยประมวลผลกลางและประกอบเข้ากับระบบคอมพิวเตอร์เพื่อการใช้งาน
1.แป้นพิมพ์(Keyboard)
เป็นอุปกรณ์ที่รับข้อมูลจากการกดแป้นแล้วทำการเปลี่ยนรหัสเพื่อส่งไปให้คอมพิวเตอร์ประมวลผล แบ่งเป็นแป้นอักขระและแป้นตัวเลข
2.เมาส์(Mouse)
เป็นอุปกรณ์ประเภทตัวชี้รับข้อมูลจากการกดปุ่มบนตัวเมาส์
เมาส์แบ่งออกเป็นประเภทใหญ่ๆได้ 2 ประเภท คือ
2.1.เมาส์ทางกล
2.2.เมาส์แบบใช้แสง
3.อุปกรณ์ชี้ตำแหน่งสำหรับคอมพิวเตอร์โน๊ตบุ๊ค
เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่ติดอยู่กับตัวเครื่องคอมพิวเตอร์โน๊คบุ๊คได้เลย พกพาง่าย มี 3 ประเภท
3.1.ลูกกลมควบคุม (track ball)
3.2.แท่งชี้ควบคุม (track point)
3.3.แผ่นรองสัมผัส (touch pad)
4.ก้านควบคุม(joystick)
เป็นก้านที่โผล่ออกมาจากกล่องควบคุมโดยการบิดขึ้น-ลง ซ้าย-ขวา นิยมใช้เล่นเกม
5. จอสัมผัส(touch screen)
เป็นอุปกรณ์รับเข้าที่รับข้อมูลจากการสัมผัสบนจอภาพ
6.อุปกรณ์รับเข้าแบบกราดตรวจ
นิยมใช้ 3 ประเภท
6.1.เครื่องอ่านรหัสแท่ง
6.2.เครื่องกราดตรวจหรือสแกนเนอร์
6.3.กล้องดิจิทัล
7. เว็บแคม(Web cam: Web camera)
เป็นอุปกรณ์รับเข้าประเภทกล้องวีดีโอที่ สามารถบันทึกและถ่ายทอดภาพนิ่ง เคลื่อนไหว ผ่านระบบเครือข่ายเว็บไซต์หรือโปรแกรม แล้วส่งไปปรากฏที่จอภาพ
8.จอภาพ(Monitor) มี 2 ชนิด ได้แก่
8.1.จอภาพแบบซีอาร์ที(Cathode Ray Tube)
8.2.จอภาพแบบแอลซีดี(Liquid Crystal Display)
9.ลำโพง(Speaker)
เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่แสดงผลเป็นข้อมูลเสียงใช้งานคู่กับการ์ดเสียง(Sound card)
เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่แสดงผลเป็นข้อมูลเสียงใช้งานคู่กับการ์ดเสียง(Sound card)
10.หูฟัง(Headphone)
เป็นอุปกรณ์ที่ส่งออกใช้สำหรับฟังเพลง ฟังเสียงจากคอมพิวเตอร์ ทำหน้าที่เปลี่ยนสัญญาณไฟฟ้าเป็นสัญญาณให้เราได้ยิน
11.เครื่องพิมพ์(Printer)
เป็นอุปกรณ์ส่งออกที่แสดงผลงานพิมพ์ลงบนกระดาษ
11.1.เครื่องพิมพ์แบบจุด
11.2.เครื่องพิมพ์เลเซอร์
11.3.เครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก
11.4.พล็อตเตอร์(Plotter) เป็นเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่มีความละเอีอดและสัดส่วนที่ถูกต้องสูง สามารถพิมพ์ลงกระดาษขนาดใหญ่ได้
11.3.เครื่องพิมพ์แบบฉีดหมึก
11.4.พล็อตเตอร์(Plotter) เป็นเครื่องพิมพ์ขนาดใหญ่มีความละเอีอดและสัดส่วนที่ถูกต้องสูง สามารถพิมพ์ลงกระดาษขนาดใหญ่ได้
12.โมเด็ม(Modem)
เป็นอุปกรณ์แปลงสัญญาณคอมพิวเตอร์ติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์อื่นๆได้
ขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์เรื่องขนาดความจุของฮาร์ดดิสก์นี้ค่อนข้างตัดสินใจได้ง่าย ซึ่งมีตัวเลขที่ระบุไว้ตามลาเบลไว้อย่างชัดเจน ปัจจุบันขนาดความจุที่มีจำหน่ายกันอยู่ที่ ระดับกิกะไบต์ เช่น 20, 30, 40, 60 ไปจนถึง 400 กิกะไบต์ แน่นอนเมื่อปริมาณความจุที่สูงขึ้นย่อมส่งผลให้ราคาต้องขยับตัวสูงตามไปด้วย สำหรับขนาดที่ ควรจะซื้อหามาใช้ในปัจจุบัน ควรเลือกซื้อให้เหมาะสมกับการใช้งาน และไม่ควรเพื่อพื้นที่ไว้ใช้งานมากจนเกินจำเป็น เพื่อประหยัดงบประมาณในกระเป๋าท่าน ได้อีกทางและสามารถที่จะใช้พื้นที่บนฮาร์ดดิสก์ได้อย่างคุ่มค้าอีกด้วย
ความเร็วรอบ
ความเร็วรอบสำคัญไฉนสิ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดเจนก็คือการหมุนของวงล้อรถหากซอยถี่มากเท่าใด จะย่นระยะเวลาไปยังจุดหมายปลายทางมากขึ้นเท่านั้น ในทำนองเดียวกันกับฮาร์ดดิสก์ที่เมื่อความเร็วรอบยิ่งถี่เพียงใด จะทำให้ประสิทธิภาพในการเข้าถึงหรือค้นหาข้อมูลมีความรวดเร็วขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันความเร็วรอบในการหมุนจานดิสก์มมาตรฐานพีซีและแล็บท็อปส่วนใหญ่มาอยู่ที่ 7,200 รอบต่อนาที (3.5 นิ้ว) และ5,400 รอบต่อนาที (2.5 นิ้ว) นอกจากนี้การใช้งานที่สูงขึ้นไปอีกในระดับเอ็นเทอร์ไพช์อย่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชั่น ความเร็วรอบในการหมุนที่จัดจ้านถึงระดับ 10,000 – 15,000 รอบต่อนาที ดูจะเหมาะกว่า เนื่องจากการใช้งานระดับการเข้าถึงและเรียกใช้มีความสำคัญมาก
ความเร็วรอบสำคัญไฉนสิ่งที่ทำให้เห็นได้ชัดเจนก็คือการหมุนของวงล้อรถหากซอยถี่มากเท่าใด จะย่นระยะเวลาไปยังจุดหมายปลายทางมากขึ้นเท่านั้น ในทำนองเดียวกันกับฮาร์ดดิสก์ที่เมื่อความเร็วรอบยิ่งถี่เพียงใด จะทำให้ประสิทธิภาพในการเข้าถึงหรือค้นหาข้อมูลมีความรวดเร็วขึ้นตามไปด้วย ซึ่งปัจจุบันความเร็วรอบในการหมุนจานดิสก์มมาตรฐานพีซีและแล็บท็อปส่วนใหญ่มาอยู่ที่ 7,200 รอบต่อนาที (3.5 นิ้ว) และ5,400 รอบต่อนาที (2.5 นิ้ว) นอกจากนี้การใช้งานที่สูงขึ้นไปอีกในระดับเอ็นเทอร์ไพช์อย่างเครื่องเซิร์ฟเวอร์และเวิร์คสเตชั่น ความเร็วรอบในการหมุนที่จัดจ้านถึงระดับ 10,000 – 15,000 รอบต่อนาที ดูจะเหมาะกว่า เนื่องจากการใช้งานระดับการเข้าถึงและเรียกใช้มีความสำคัญมาก
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น